ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดแม่บ้าน: เทคนิคการเลือกเนื้อผ้าผลิตเสื้อโปโลพนักงานเพื่อใช้ในองค์กร  (อ่าน 197 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 239
  • รับโพสเว็บ รับจ้างโพส โปรโมทเว็บ รับจ้างโปรโมทเว็บ
    • ดูรายละเอียด


เสื้อโปโลเป็นเสื้อที่สวมใส่สบาย มาพร้อมกับภาพลักษณ์แบบกึ่งทางการ สามารถใส่คู่กับกางเกงได้ทุกประเภท หรือจะสวมสูททับให้ดูทางการมากขึ้น หรือคาร์ดิแกนคลุมสไตล์ Smart Casual ก็เข้ากันได้ดี ด้วยเหตุนี้เอง เสื้อโปโลจึงนิยมนำมาใช้เป็นยูนิฟอร์มพนักงาน ซึ่งเสื้อโปโลยูนิฟอร์ม เหมาะกับการเสริมภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรได้ทุกอุตสาหกรรม อีกทั้งเมื่อสวมใส่แล้วยังมีความคล่องตัวสูง และยังถือเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานได้อีกด้วย เพราะการให้สวัสดิการด้วยเสื้อฟอร์มพนักงาน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องเครื่องแต่งกายให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงยังสามารถส่งเสริมให้เกิดความภักดีต่อองค์กร (Organization Commitment) และสร้างเอกภาพให้กับพนักงานภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี

สำหรับองค์กรที่ต้องการส่งเสริมภาพลักษณ์ หรือเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยใช้เสื้อโปโลยูนิฟอร์มนั้น จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณได้อย่างเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันเสื้อโปโลพนักงานมีชนิดของเนื้อผ้าที่หลากหลาย ซึ่งเนื้อผ้าแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติและความเหมาะสมต่อการใช้งาน หรือต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไปจะพาไปเผยเทคนิคในการเลือกเนื้อผ้าสำหรับเสื้อโปโลยูนิฟอร์ม ให้เลือกใช้งานได้เหมาะสมตามความต้องการต่อองค์กรของคุณ เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องเนื้อผ้ามากขึ้นก่อนการสั่งผลิตจริง

 
ใส่สบาย เสริมภาพลักษณ์ให้ปัง ด้วยการเลือกเนื้อผ้าผลิตเสื้อโปโลพนักงานที่ใช่

แน่นอนว่าการสวมเสื้อโปโลพนักงาน หรือเสื้อโปโลยูนิฟอร์มที่ต้องใส่เป็นประจำเกือบทุกวัน ตลอดระยะเวลาเป็นปี ๆ นั้น มีสิ่งที่ต้องคำนึงอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบและทรงของเสื้อโปโล สีที่ใช้ คุณภาพ รวมไปถึงเรื่องเนื้อผ้าที่จะนำมาผลิตเสื้อโปโลพนักงาน ที่เป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะจะส่งผลต่อชีวิตประจำวันของผู้สวมใส่ เช่น ความสบายในการสวมใส่ การดูแลรักษา ตั้งแต่การซัก-รีด มีคุณสมบัติในการถ่ายเทอากาศ หรือซับเหงื่ออย่างไร เป็นต้น ซึ่งเนื้อผ้าที่นิยมใช้ในการนำมาผลิตเสื้อโปโลยูนิฟอร์มนั้น คือ ผ้ายืด เพราะเป็นประเภทที่มีการสวมใส่สบาย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามลักษณะของเส้นใยที่นำมาทอเป็นผ้าได้ดังนี้

   
1. เนื้อผ้าประเภท Cotton 100%
    เนื่องจากผ้า Cotton หรือผ้าฝ้าย ทำจากธรรมชาติ100% คุณสมบัติพิเศษของฝ้ายนั้น คือผิวของฝ้ายนั้นจะไม่ทำให้ผิวของคนเราระคายเคือง เมื่อได้สวมใส่แล้วจึงรู้สึกสบาย มากกว่าผ้าประเภทอื่นๆ ผ้าฝ้ายจึงเป็นผ้าที่เป็นที่นิยมมากที่สุด แต่ข้อเสียคือราคาก็จะสูงกว่าผ้าชนิดอื่นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้คุณสมบัติของผ้ายังมีความนุ่ม เนียน สัมผัสละเอียด ระบายความร้อนได้ดี รวมถึงมีความสามารถในการซึมซับน้ำได้ดีอีกด้วย ทำให้เนื้อผ้า Cotton100% สวมใส่สบาย และนิยมนำมาสวมใส่กันมากที่สุด สามารถนำไปถักทอเป็นเสื้อได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงเสื้อฟอร์มพนักงาน เสื้อโปโลพนักงาน ยูนิฟอร์มพนักงานด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น

    ประเภท Single Jersey คือผ้าทอเรียบหน้าเดียว เป็นเนื้อผ้าที่มีการถักทอจากเส้นใย Cotton 100% หรือฝ้าย ทำให้เสื้อที่นำมาถักเป็นเสื้อโปโลพนักงาน เสื้อโปโลยูนิฟอร์ม มีเนื้อผ้าเรียบ สวมใส่สบาย และไม่ระคายเคืองผิว เนื้อผ้าไม่หนามากนัก สามารถสวมใส่ได้ทั้งพื้นที่ภายในอาคารและนอกอาคารได้อย่างหลากหลาย มีคุณสมบัติในการซึมซับเหงื่อได้ค่อนข้างดี เกิดจากการทอด้วยด้ายเบอร์ใหญ่ ทำให้มีเนื้อผ้าหนาเล็กน้อยที่สวมใส่ได้ท่ามกลางสภาพอากาศได้หลากหลาย

    เนื้อผ้าประเภท CVC คือเนื้อผ้าที่มีการผสมผสานระหว่าง Cotton กับ Polyester หรือผ้าสังเคราะห์ ซึ่งมีสัดส่วนผ้า Cotton มากกว่า Polyester ทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นจากการมี 2 เส้นใยผสมกัน เช่น มีการสวมใส่สบายและระบายอากาศได้ดีจากผ้า Cotton คุณสมบัติในการไม่หดย้วยและเนื้อผ้าไม่เป็นขุยจากผ้า Polyester เป็นต้น เป็นเนื้อผ้าที่ได้รับความนิยมในการใช้งานแพร่หลายและนำมาผลิตเสื้อโปโลพนักงาน เสื้อฟอร์มพนักงาน ยูนิฟอร์มพนักงานได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น

    ประเภท CVC JUTI เป็นการผสมระหว่าง Cotton 65% กับ Polyester 35% มีคุณสมบัติในการสวมใส่สบาย แต่มีราคาถูกกว่าเนื้อผ้า cotton 100% เหมาะกับสวมใส่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เพราะสวมใส่แล้วไม่ร้อนและระบายอากาศได้ดี สามารถซับเหงื่อได้ปานกลาง มีรูปทรงคงทน หดย้วยน้อยและดูแลรักษาง่าย

    ประเภท DRYTECH 201 เป็นการผสมระหว่าง Cotton 55% กับ Polyester 45% มีคุณสมบัติซึมซับเหงื่อได้ทันที เพราะมีโครงสร้างแบบตาข่าย (Mesh back) เหมาะกับการสวมใส่ในสภาพอากาศร้อน หรือการทำงานนอกสถานที่ เพราะสามารถระบายอากาศได้ดีมาก ไม่ร้อนเหนอะหนะและยังมีการดูแลรักษาง่าย ไม่หดย้วย ยับยาก แต่รีดง่าย

    เนื้อผ้าประเภท TC คือส่วนเนื้อผ้าที่มีการผสมระหว่าง Cotton กับ Polyester แต่มีสัดส่วนผสมของ Polyester มากกว่า Cotton จึงทำให้มีคุณสมบัติที่ยังคงการสวมใส่สบาย ซึมซับเหงื่อได้และระยายอากาศได้ดี โดยที่ทำให้เสื้อยังคงทรงรูปร่าง ไม่หดย้วยและดูแลรักษาได้ง่าย สามารถใช้นวัตกรรมในการนำไปถักทอแบบใหม่ ๆ ได้ง่าย จึงนิยมนำมาผลิตเสื้อโปโลพนักงาน เสื้อฟอร์มพนักงาน ยูนิฟอร์มพนักงาน ยกตัวอย่างเช่น

    ประเภท MICRO TC HYBRID ผสมระหว่าง Cotton 17% กับ Polyester 83% มีลักษณะเนื้อผ้าละเอียด ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว เหมาะกับการสวมใส่ภายในสถานที่ในอาคาร เพราะมีความสามารถในการซึมซับเหงื่อได้ปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง คงทนและดูแลรักษาง่าย สามารถซักโดยเครื่องซักผ้ารวมกับเนื้อผ้าอื่น ๆ ได้ โดยไม่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ

    PTC JUTI เป็นประเภทเนื้อผ้าที่มีการผสมระหว่าง Polyester 65% และ Cotton 35% มีลักษณะเนื้อผ้าละเอียด สวมใส่ได้โดยไม่ระคายเคืองผิว สามารถสวมใส่ได้ทั้งสภาพพื้นที่ภายนอกและภายในอาคาร มีความสามารถในการดูดซับเหงื่อได้ปานกลางและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ยังมีความสามารถใช้งานได้อย่างคงทน พร้อมการดูแลรักษาได้ง่าย

   
2. เนื้อผ้าประเภท Polyester 100% หรือเส้นใยสังเคราะห์

    คือเนื้อผ้าที่เกิดจากการถักทอด้วยเส้นใยสังเคราะห์ 100% จึงทำให้มีเนื้อผ้ามีความเหนียวและทนทาน มีลายผ้าใหญ่ แต่มีน้ำหนักเบา สัมผัสนุ่มและระบายอากาศได้ดี จึงนิยมในการนำมาถักทอเป็นเสื้อผ้ากีฬาและสามารถนำมาใช้งานผลิตเสื้อโปโลพนักงาน เสื้อฟอร์มพนักงาน ยูนิฟอร์มพนักงานได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

    ประเภท ENDURANCE มีลักษณะพิเศษตรงมีลายของผ้าแบบรังผึ้ง จะมีการระบายอากาศได้ดี ทำให้สวมใส่สบายไม่ร้อน เพราะสามารถซึมซับเหงื่อได้ดี ดูแลรักษาง่าย ยับยาก คงรูปร่างดีไม่มีหด คงความสดใสด้วยสีสดไม่ซีดและหากซักบ่อย ๆ ก็ไม่ขึ้นขน จึงเหมาะในการสวมใส่ในสภาพแวดล้อมทั้งนอกอาคารและในอาคาร

    ประเภท SYNTREL 501 มีคุณสมบัติในการซับเหงื่อได้ในทันที ระบายอากาศได้ดี สวมใส่กลางแจ้งหรือนอกอาคารแล้วไม่ร้อน สามารถคงรูปร่างได้ดี ไม่หดไม่ย้วยและมีสีสันสดไม่ซีดง่าย ดูแลรักษาง่ายไม่ต้องรีดบ่อยและไม่ขึ้นขน

    ประเภท TK MICRO เป็นประเภทที่มีเนื้อผ้าทนทาน ไม่หดย้วยง่าย โดยที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดและมีราคาไม่สูง ซักบ่อยก็ไม่เสียทรง มีสีสดไม่ซีดและไม่ขึ้นขน


จะเห็นได้ว่าประเภทของเนื้อผ้าสำหรับผลิตเสื้อโปโลนั้นมีอยู่หลากหลายประเภท และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยการเลือกใช้จะต้องคำนึงถึงเรื่องของคุณสมบัติของเนื้อผ้าด้วย เช่น ความสามารถในการระบายอากาศ การซับเหงื่อ รูปทรงที่มีความคงทน หรือสีสันสดใส เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกเทคนิคเสริมคือ การพิจารณาที่ความหนาของเนื้อผ้า หรือการดูดซับน้ำมันในตอนผลิต โดยจะมีหน่วยวัดเป็น gsm ซึ่งโดยทั่วไปจะมีความหนาตั้งแต่ 150 – 250 gsm โดยหากมีความหนาน้อยก็จะช่วยเสริมในเรื่องของการระบายอากาศ ใส่แล้วไม่ร้อน แต่หากมีขนาดความหนามากหน่อย ก็จะช่วยในเรื่องความคงทน ซึ่งหากคำนึงถึงปัจจัยที่ได้กล่าวไปข้างต้นนี้ เชื่อว่าจะสามารถเลือกเนื้อผ้าในการผลิตเสื้อโปโลพนักงานที่สวมใส่สบายได้ง่าย ๆ และเหมาะสมกับกิจกรรม หรือสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อย่างแน่นอน


ชุดแม่บ้าน: เทคนิคการเลือกเนื้อผ้าผลิตเสื้อโปโลพนักงานเพื่อใช้ในองค์กร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://uniformdeluxe.com/